ลัษณะวิสัยไม้เลื้อย
ลำต้น
ดอก
ผล
เมล็ด
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Coccinia grandis (L.) Voigt
ชื่อสามัญ : Ivy Gourd
วงศ์ : Cucurbitaceae
ชื่ออื่น : ผักแคบ (ภาคเหนือ) แคเด๊าะ (กระเหรี่ยงและแม่ฮองสอน) ตำลึง,สี่บาท (ภาคกลาง) ผักตำนิน (ภาคอีสาน)
ลำต้นเป็นเถาล้มลุกเนื้อแข็งใบเป็นใบเดี่ยว มีลักษณะเป็น 3 แฉก หรือ 5 แฉก กว้างและยาวประมาณ 4-8 เซนติเมตรโคนใบมีลักษณะเป็นรูปหัวใจ มีมือเกาะยื่นออกมาจากที่ข้อ ดอกเป็นดอกเดี่ยวหรือดอกคู่ มีลักษณะเป็นรูปรัฆังกลีบดอกสีขาว แยกเพศอยู่คนละต้น ดอกออกตรงที่ซอกใบ ลักษณะของผลเป็นวงรีทรงยาวสีเขียวอ่อน เมื่อยามแก่จัดจะเป็นสีแดง เป็นที่ชื่นชอบของนกนานาชนิด
ลักษณะวิสัยพืช
ตำลึง เป็นไม้เถาล้มลุกมีอายุอยู่ได้หลายปี เมื่ออายุมากเถาจะใหญ่และแข็งแรงมากขึ้น เถามีสีเขียวใบไม้ ตามข้อจะมีมือเกาะ ใบออกสลับกันเป็นรูปสามเหลี่ยม ดอกสีขาวข้างในมีสีเหลืองอ่อน มีผลคล้ายกับผลแตงกวา แต่มีขนาดเล็กกว่า มาก ผลของตำลึงเมื่อดิบจะเป็นสีเขียว ใบไม้มีลายสีขาวอยู่ด้วย พอสุกเต็มที่ก็จะมีสีแดงสด ตำลึงปลูกได้เป็นผักที่ดีมาก ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่โดยทั่วไปตามธรรมชาติ โดยเฉพาะในชนบทหรือตามที่รก ป่าละเมาะ ริมทาง
การเพาะพันธุ์
- ใช้เมล็ดจากผลแก่หยอดลงในหลุม ปลูกได้ดีในดินร่วนซุย หลังจากที่ต้นกล้างอกก็ให้หาไม้มาปลักเพื่อให้ต้นตำลึงใช้เลื่อย
- นำเถาแก่มาตัดให้ได้ขนาด 4-6 นิ้ว ปักลงในถุงเพาะชำ หลังจากรากและใบงอกแล้วก็นำไปปลูกลงหลุม
สารเคมี
ในตำลึงมีสารเอนไซม์ไมเลส ช่วยในการย่อยแป้ง และในตำลึงก็มีสารอาหารชื่อว่าบีตา-แคโรทีนประโยชน์
สรรพคุณทางยา
- ใบใช้ในการแก้ไข้ตัวร้อน ตาแดง ตาเจ็บ
- เถานำน้ำต้มจากเถาตำลึงมาหยอดตาแก้ตาแดง ตาฟาง
- ดอกตำลึงช่วยทำให้หายจากอาการคันได้
- รากใช้แก้อาการอาเจียน ตาฝ้า
- น้ำยางจากต้นและใบช่วยลดน้ำตาลในเลือด
ประกอบอาหาร
- สามารถนำใบตำลึงมาต้มกับน้ำแกงใส่กับหมูสับ นำใบตำลึงมาผัดผักรวม หรือ นำไปประกอบอาหารอย่างอื่นก็ได้เหมือนกัน
อ้างอิง
- ผักสวนครัวไทย.ป้าสงวน.โรงพิมพ์ตั้งตงฮวด.2545,หน้า 43
- http://www.tungsong.com/samunpai/drug/22_Tumlung/Index_Tumlung.html
- http://www.thaigoodview.com/library/studentshow/st2545/5-4/no11
- /main/tamlung_ya.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น